วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ทวารบาลที่ปราสาทบันทายสรี

ที่มาภาพ:  https://pantip.com/

                 ทวารบาล มาจากคำว่า "ทวาร" ซึ่งแปลว่า "ประตูหรือช่อง" และ "บาล" ซึ่งแปลว่า "เลี้ยง รักษา ปกครอง" เมื่อแปลรวมกันจึงมีความหมายว่า "ผู้รักษาประตูหรือช่อง"  ดังนั้น ทวารบาล จึงมีความหมายว่า "ผู้รักษาประตู" ซึ่งจากคำแปล ก่อให้เกิดการตีความต่อประติมากรรมประเภททวารบาลว่าคือ รูปของสัตว์ อสูร เทพ เทวดา และมนุษย์ หรือสิ่งมีชีวิตใดๆ ก็ตามที่ตั้งอยู่บริเวณบานประตู ช่องทางผ่านเข้าออก ช่องหน้าต่าง หรือราวบันได


               
ที่มาภาพ:  http://www.thapra.lib.su.ac.th/

               ทวารบาลที่พบในปราสาทบันทายสรี มีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน ดังนี้

   
          1. ทวารบาลประเภทเทพยดา

                 
  
ที่มาภาพ:  http://www.thapra.lib.su.ac.th/


          ทวารบาลรูปเทวดาและนางอัปสร มักปรากฏรูปสลักตามกรอบประตูหรือผนัง ที่ปราสาทบันทายสรีจะปรากฏตัวภาพเทวดาและนางอัปสรที่อยู่ประจำผนังเทวาลัย มีลักษณะไม่ใหญ่โตแต่เนื้อตัวอวบอิ่ม ประดับด้วยถนิมพิมพาภรณ์อย่างชัดเจน อยู่ภายในซุ้มเรือนแก้วอันงดงาม ทวารบาลเทวดาที่ปรากฏที่ปราสาทบันทายสรีมักจะทำผมชฎามงกุฎทรงกระบอก เปลือยกายท่อนบน ไม่สวมเสื้อ และเครื่องประดับนุ่งผ้านุ่งเรียบ ถืออาวุธแนบกาย อยู่ภายในซุ้มเรือนแก้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทำหน้าที่เป็นผู้ปกปักษ์ดูแลรักษาเทวสถาน



          2. ทวารบาลประเภทสัตว์



ที่มาภาพ:  http://www.thapra.lib.su.ac.th/


          ทวารบาลรูปสัตว์จะนิยมสร้างกันมาก โดยมักจะสร้างเป็นรูปประติมากรรมลอยตัวประดับชั้นบันได ทวารบาลรูปสัตว์ที่ปรากฏที่ปราสาทบันทายสรี มักปรากฏในรูปของสัตว์ที่มีลักษณะเป็นครึ่งคนครึ่งสัตว์ โดยส่วนศีรษะจะเป็นรูปสัตว์ และส่วนลำตัวจะเป็นรูปมนุษย์ เช่น ทวารบาลรูปสิงห์ ทวารบาลรูปลิง และทวารบาลรูปครุฑ ซึ่งทวารบาลรูปสัตว์ที่ประดับอยู่ตามชั้นบันไดแสดงให้เห็นว่า อาคารหรือสถานที่นั้นเปรียบดังศูนย์กลางจักรวาลหรือเขาพระสุเมรุ ที่แวดล้อมไปด้วยสัตว์แปลกตานานาชนิด



          3. ทวารบาลประเภทอสูร


ที่มาภาพ:  http://www.thapra.lib.su.ac.th/
            
          ทวารบาลรูปอสูรมักจะสร้างเป็นรูปประติมากรรมลอยตัวประดับชั้นบันได เช่นเดียวกับทวารบาลรูปสัตว์ ที่ปราสาทบันทายสรีจะพบทวารรูปอสูร โดยปรากฏในภาพของทวารบาลรูปยักษ์ ซึ่งมีลักษณะทรงผมขดเป็นก้นหอยคล้ายกระบังหน้า หน้าตาแลดูเคร่งขรึม ดุร้าย ลูกตาโปน และมีเขี้ยว


          โดยทวารบาลที่มีอายุรุ่นเก่าแห่งหนึ่ง และเป็นต้นแบบที่ส่งอิทธิพลให้กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในด้านรูปแบบ และคติความเชื่อน่าจะเกิดขึ้นในประเทศอินเดีย ซึ่งน่าจะมีขึ้นตั้งแต่สมัยอินเดียโบราณ อาทิเช่น ยักษ์ ในฐานะที่เป็นทวารบาล ซึ่งมีหน้าที่คุ้มครองรักษาศาสนสถานหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์


             







แหล่งอ้างอิง

          ปัทมา สาคร. 2553.  ทวารบาลแบบไทยประเพณีในงานจิตรกรรมสมัยอยุธยาตอนปลายกับสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น. การค้นคว้าอิสระ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาประวัติศาสตร์ศิลปะ. บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศิลปากร.
          บล็อกเกอร์ดอทคอม.  ทวารบาลในประเทศอาเซียน. สืบค้นเมื่อ 15 ตุลาคม 2560 จาก http://tawaraban.blogspot.com/2015/02/blog-post.html
          ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร.  ทวารบาล ปราสาทบันทายศรี. สืบค้นเมื่อ 21 ตุลาคม 2560 จาก http://www.sac.or.th/

         

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รูปแบบประติมากรรมพระอุมา สมัยอิทธิพลศิลปะเขมรในไทย

ที่มาภาพ:   http://www.thapra.lib.su.ac.th/           พระอุมา หรือพระศรีอุมาเทวี เป็นเทวีองค์สำคัญในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ในปัจจุบันนับถือ...