วันอังคารที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2560

รูปแบบผ้านุ่งนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด


ที่มาภาพ:  https://cdn.pixabay.com/


            นางอัปสรา แปลว่า 'ผู้เคลื่อนไหวในน้ำ' หรือ 'ผู้กระดิกในน้ำ' ในคัมภีร์อถรรพเวทและยชุรเวทได้กล่าวถึงนางอัปสราว่า 'เป็นผู้ที่อาศัยในน้ำ' ซึ่งเป็นลักษณะการเกิดของนางอัปสราที่ผุดขึ้นมาจากการกวนเกษียรสมุทรตามคัมภีร์วิษณุปุราณะ ซึ่งเป็นเหตุการณ์หนึ่งในปางกูรมาวตาร ที่พระวิษณุทรงอวตารลงมาเป็นเต่าเพื่อรองรับเขามันทระในพิธีกวนเกษียรสมุทรของเหล่าเทพและอสูรเพื่อให้ได้น้ำอมฤตที่ทำให้ผู้ที่ดื่มเข้าไปมีชีวิตเป็นอมตะ


           ศิลปะเขมรสมัยเมืองพระนครได้ปรากฏภาพสลักสตรีประดับตามศาสนสถาน โดยในแต่ละสมัยอยู่ในฐานะที่แตกต่างกัน กล่าวคือ ในบางศิลปะอาจปรากฏภาพสลักสตรีอยู่ในบทบาทของทวารปาลิกา (ทวารบาลที่เป็นสตรี) และบางศิลปะปรากฏภาพสลักสตรีในบทบาทของนางอัปสรา อาจเนื่องจากคติการสร้างที่แตกต่างกัน โดยแสดงบทบาทฐานะผ่านลักษณะภายนอกบางประการ เช่น ทวารปาลิกามักยืนในท่าทางขึงขัง มือถืออาวุธ ในขณะที่นางอัปสราแสดงอิริยาบถแช่มช้อย อ่อนหวาน และไม่ถืออาวุธ



ที่มาภาพ:  http://www.isan.clubs.chula.ac.th/

            ผ้านุ่งนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด ประกอบไปด้วยรูปแบบต่างๆ ที่เกิดจากการนุ่ง ผูก มัด พับของผ้าจนเกิดเป็นรูปแบบต่างกัน ซึ่งรูปแบบของผ้านุ่งแต่ละแบบอาจจะเกิดจากปัจจัยต่างกัน เช่น รูปแบบที่เป็นที่นิยมในสมัยนั้นๆ หรือรูปแบบที่ทำขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรมนั้นๆ โดยผ้านุ่งนางอัปสราแต่ละแบบมักมีโครงสร้างผ้านุ่งที่แตกต่างกัน


             รูปแบบผ้านุ่งนางอัปสราที่ปราสาทนครวัดที่พบเด่นๆ สามารถแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ดังนี้

ที่มาภาพ:  บทความเรื่อง มุมมองสภาพสังคมเขมรในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2
(พ.ศ.1656 - หลัง 1688) ผ่านภาพสลักนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด


             1. ผ้านุ่งชักชายผ้าแบบนครวัด
                      มีลักษณะเป็นการชักชายผ้าออกมาด้านข้างทั้ง 2 ด้าน ด้านหนึ่งเป็นการชักชายผ้าแบบหางปลา อีกด้านชักชายผ้าแบบม้วนทบผ้าออกมา ชายผ้าที่สะโพกบางครั้งก็มีลักษณะเป็นขอบตั้งขึ้นหรือโค้งมาที่ด้านหลังและบางครั้งกลับไม่มีชายผ้าดังกล่าวเลย

             2. ผ้านุ่งพับป้ายพร้อมผ้าชิ้นพิเศษ
                      มีลักษณะเป็นผ้าลายดอกพับป้าย มีชายผ้าที่ห้อยย้อยออกมาที่หน้าท้องและมีผ้าชิ้นพิเศษ 3 ชิ้นเพิ่มเข้ามา คือ ผ้าจีบทบที่นำมาวางด้านหน้าทับผ้าที่พับป้าย และผ้าชิ้นพิเศษที่นำมาวางไว้ที่ด้านข้างทั้ง 2 ด้าน

             3. ผ้านุ่งโจงสั้น
                       มีลักษณะเป็นการนำผ้านุ่งมาทำเป็นผ้าเตี่ยวปกปิดเฉพาะส่วนอวัยวะเพศเท่านั้น ส่วนชายผ้าที่เหลือบ้างมีการเก็บมัดเพื่อความคล่องตัว บ้างมีการปล่อยชายจับจีบให้สวยงาม ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการนุ่งผ้าที่คล้ายกับผ้านุ่งของบุรุษเพศ


              รูปแบบผ้านุ่งนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงฝีมือของช่างขอมที่บรรจงสลักเสลาลวดลายผ้านุ่ง และทำให้ภาพสลักดูมีมนต์เสนห์แล้วนั้น ยังสะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบ ค่านิยม บรรทัดฐานทางสังคม วิถีชีวิต ตลอดจนการติดต่อค้าขายระหว่างประเทศอื่นๆ ในสมัยนครวัด อีกทั้งยังทำให้เข้าใจถึงสภาพสังคมในสมัยนครวัดได้อีกมุมหนึ่ง







แหล่งอ้างอิง
             
            พลอยชมพู ปุณณวานิชศิริ. 2556.  ลวดลายผ้านุ่งนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด: ที่มาและรูปแบบ. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาประวัติศาสตร์ศิลปะ. บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศิลปากร.
            พลอยชมพู ปุณณวานิชศิริ. 2557.  มุมมองสภาพสังคมเขมรในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 (พ.ศ.1656 - หลัง 1688) ผ่านภาพสลักนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal, ปีที่ 7 ฉบับที่ 2.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รูปแบบประติมากรรมพระอุมา สมัยอิทธิพลศิลปะเขมรในไทย

ที่มาภาพ:   http://www.thapra.lib.su.ac.th/           พระอุมา หรือพระศรีอุมาเทวี เป็นเทวีองค์สำคัญในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ในปัจจุบันนับถือ...